“อภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์” ชงแก้ปมวีซ่า “อาเซอร์ไบจาน” ตลาดที่ถูกลืม แต่กำลังซื้อสูง

สัมภาษณ์

แม้ล่าสุดรัฐบาลไทยจะประกาศมาตรการและแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกระลอกใหญ่ด้วยการเพิ่มรายชื่อประเทศ/ดินแดน ที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือวีซ่าฟรี ใหม่ 36 ประเทศ และขยายวันพำนักจาก 30 วันเป็น 60 วัน 6 ประเทศ รวมถึงเพิ่มรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival จำนวน 17 ประเทศ

แต่รายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิดังกล่าวนี้ ยังไม่มี “อาเซอร์ไบจาน” ซึ่งเป็นหนึ่งของประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบยุโรปตะวันออกกับเอเชียตะวันตก ติดกับรัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย อิหร่าน ซึ่งเป็นตลาดหนึ่งที่ประชากรมีกำลังซื้อสูงไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม CIS

“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “อภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง” เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ถึงแผนการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศักยภาพและโอกาสในการทำการตลาดสำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทย ดังนี้

อาเซอร์ไบจานตลาดโอกาสใหม่

“อภิรัตน์” ให้ข้อมูลว่า นอกจากเป็นเอกอัครราชทูต กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี แล้วเขายังเป็นทูตไทยในอีก 4 ประเทศ คือ จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน อุซเบกิสถานและมาซิโดเนียเหนือ เนื่องจากใน 4 ประเทศนี้ยังไม่มีสถานทูตไทย

โดยในพื้นที่ดังกล่าวนี้ นอกจากตุรกี “อาเซอร์ไบจาน” ถือเป็นอีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจในด้านของการเป็นตลาดโอกาสใหม่ของภาคการท่องเที่ยวของไทย และควรพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต เพราะเป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้สูงจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ขณะที่คนอาเซอร์ไบจานก็สนใจที่จะมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก

“อภิรัตน์” บอกด้วยว่า เขาได้นำคณะ สส.จากกรุงบากู และ สส.ตุรกี ซึ่งเป็นกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาอาเซอร์ไบจาน-ไทย และตุรกี-ไทย มาเยือนและเรียนรู้การทำงานของรัฐสภาไทย และได้พบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาไทย เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และพบสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) รวมถึงผู้ประกอบการในเมืองพัทยา (ชลบุรี)

“ทั้งรัฐสภาอาเซอร์ไบจานและตุรกีสนใจการท่องเที่ยวของไทยมาก โดยในส่วนของตุรกีนั้นพบว่ามีจำนวน
นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยปีละประมาณ 50,000-60,000 คนต่อปี ซึ่งทาง ททท.ได้แจ้งว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ตุรกีเป็นตลาดสำคัญมากของการท่องเที่ยวไทยและมีแผนส่งเสริมมากขึ้น”

ขณะที่ตลาดอาเซอร์ไบจานนั้นที่ผ่านมายังมีจำนวนไม่มากนัก เฉลี่ยประมาณ 1,500 คนต่อปี แต่เป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสสูงมาก เพียงแต่เราต้องอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่าให้เขาด้วย

“คนอาเซอร์ไบจานมีไลฟ์สไตล์ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว มีกำลังซื้อสูง และมีการเดินทางซ้ำในสัดส่วนที่สูงมาก เพราะประเทศมีก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน รวมถึงแร่เหล็ก อะลูมิเนียม ฯลฯ มีรายได้ต่อหัวประมาณ 7,530 ดอลลาร์สหรัฐ”

ดีมานด์มี (แต่) ติดปัญหาวีซ่า

“อภิรัตน์” บอกว่า 15 ปีก่อนรัฐบาลไทยมีกงสุลใหญ่ประจำกรุงอากู แต่เป็นคนอาเซอร์ไบจาน ช่วยดูแลความสัมพันธ์ และทำงานร่วมกับสถานทูตไทย ณ กรุงอังการา และก่อนหน้านั้นรัฐบาลไทยอนุญาตให้กงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยที่เป็นชาวต่างชาติทั่วโลกมีอำนาจออกวีซ่าได้ด้วย แต่ภายหลังได้ปรับระเบียบเอาอำนาจในการออกวีซ่าคืน ทำให้คนอาเซอร์ไบจานที่อยากมาเที่ยวไทยขอวีซ่าลำบาก ต้องส่งเอกสารและพาสปอร์ตไปยื่นขอวีซ่าที่กรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อสถานทูตไทย ณ กรุงอังการา ตรวจสอบ อนุมัติแล้วก็ส่งกลับไป ซึ่งก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานและไม่สะดวก

“แม้ขั้นตอนการขอวีซ่าจะค่อนข้างลำบาก แต่คนอาเซอร์ไบจานจำนวนหนึ่งก็ไม่ท้อ ยังสนใจมาเที่ยวไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนชั้นสูง ระดับประธานาธิบดี กลุ่มเศรษฐีที่มีรายได้สูง ฯลฯ ผมจึงเห็นว่าอาเซอร์ไบจานเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ผมในฐานะทูตไทยประจำกรุงอังการาก็พยายามดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง”

ชง 3 ข้ออำนวยความสะดวก

เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ให้ข้อมูลอีกว่า ในฐานะเอกอัครราชทูต ประจำกรุงอังการา และดูแลประเทศอาเซอร์ไบจานด้วย ได้พยายามผลักดันและนำเสนอรัฐบาลไทยให้พิจารณามาตรการอำนวยความสะดวกด้านการขอวีซ่าให้ชาวอาเซอร์ไบจานใน 3 ข้อหลัก ๆ ได้แก่

1.พิจารณาลงนามในข้อตกลงให้ผู้ถือพาสปอร์ตทูต พาสปอร์ตราชการ ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ต้องใช้วีซ่า

2.เพิ่มการใช้งานระบบยื่นขอวีซ่าออนไลน์ (e-Visa) ให้กับสถานทูตไทย กรุงอังการา ซึ่งปัจจุบันระบบดังกล่าวถูกนำไปใช้ในหลายประเทศแล้ว

และ 3.สถานทูตไทย ณ กรุงอังการา พยายามผลักดันให้ชาวอาเซอร์ไบจานสามารถทำวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival (VOA) ได้

“ส่วนตัวผมว่าประเด็นที่น่าจะดำเนินการได้เร็วที่สุดคือ การลงนามในข้อตกลงให้ผู้ถือพาสปอร์ตทูต พาสปอร์ตราชการเดินทางได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะมีร่างข้อตกลงอยู่แล้วแค่ยังไม่ได้ลงนาม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากได้มากกว่านั้นคือ สามารถใช้ระบบยื่นขอวีซ่าออนไลน์ได้ โดยในส่วนนี้คาดว่าระบบจะสามารถรองรับได้ภายในสิ้นปีนี้”

ตลาดเทียบชั้นกลุ่ม CIS

ขณะเดียวกันสำหรับคนไทยที่จะไปเที่ยวอาเซอร์ไบจานก็ไม่ได้รับความสะดวกเช่นกัน เนื่องจากยังไม่มีสถานทูตอาเซอร์ไบจานในไทย คนไทยต้องไปขอวีซ่าที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย อย่างไรก็ตามรัฐบาลอาเซอร์ไบจานได้พิจารณาและสั่งการตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าภายในปีนี้เขาจะเปิดสถานทูตอีก 3 แห่งทั่วโลก โดยหนึ่งในนั้นคือ กรุงเทพฯ นับว่าเป็นข่าวดีในแง่ความสัมพันธ์ทวิภาคี และอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่จะไปเที่ยวอาเซอร์ไบจานได้สะดวกขึ้น

“ส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่าในเชิงการทูตรัฐบาลไทยก็น่าจะอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อออกมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับชาวอาเซอร์ไบจานด้วยเช่นกัน”

เพราะนอกจากด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีความเป็นไปได้สูงว่ารัฐบาลอาเซอร์ไบจานอยากมีความร่วมมือกับในในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเรียนรู้เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากประเทศไทยด้วย”

พร้อมย้ำว่า ตลาดอาเซอร์ไบจานสำหรับการท่องเที่ยวไทยนั้นมีศักยภาพไม่น้อยกว่ากลุ่มประเทศ CIS หรือกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชอย่างรัสเซีย คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ยูเครน ฯลฯ และเชื่อมั่นว่าหากไทยปลดล็อกเรื่องวีซ่าได้ จะเป็นแรงจูงใจให้สายการบินเปิดเส้นทางบินตรงเข้าประเทศไทยด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “อภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์” ชงแก้ปมวีซ่า “อาเซอร์ไบจาน” ตลาดที่ถูกลืม แต่กำลังซื้อสูง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-06-07T01:07:52Z dg43tfdfdgfd