ทอท.ลงทุนอาคาร “ไพรเวตเจ็ต” หนุนรายได้ “ท่าฯดอนเมือง” ปีละ 3 พันล้าน

ทอท.เผยท่องเที่ยวฟื้นหนุนปริมาณผู้โดยสารครึ่งปีหลังสูงกว่าคาดการณ์ คาดปริมาณผู้ใช้บริการ 6 สนามบินหลักของไทยรวมทั้งปี 120 ล้านคนตามเป้าหมาย เดินหน้าพัฒนาอาคารคลังสินค้า 4 ดอนเมืองเป็น “ไพรเวตเจ็ต เทอร์มินอล” ยุติการลงทุนระบบ APM มูลค่าหมื่นล้านบาทเป็นทางเดินเชื่อมต่อพื้นที่อาคารผู้โดยสาร

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปีงบประมาณ 2567 ว่าสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวส่งผลต่อปริมาณผู้โดยสารครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากช่วงครึ่งปีแรกที่คาดการณ์ไว้ที่ 60 ล้านคน

โดยมั่นใจว่าตลอดทั้งปีงบประมาณ 2567 นี้จะมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.ตามเป้าหมายที่ 120 ล้านคนต่อปี และคาดว่าจะมีจำนวน 140 ล้านคนต่อปีในปี 2568

นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาอาคารคลังสินค้า 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นอาคารเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet Terminal) พร้อมโรงจอด และศูนย์ซ่อมบำรุง เพิ่มเติมจากปัจจุบันประมาณ 30 เที่ยวบินต่อวัน เป็นประมาณ 60 เที่ยวบินต่อวัน รองรับกลุ่มผู้โดยสารชั้นดีเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้ ทอท.เพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี

ขณะเดียวกัน ยังมีงานปรับปรุงก่อสร้างอาคารจอดรถ ที่ปัจจุบันมีความแออัดอย่างมาก จึงทำให้สามารถรองรับเพิ่มได้อีก 4,000 คัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงสร้างและปรับปรุงทางเชื่อมกับสถานีรถไฟ ทั้งสายสีแดง รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง และปรับปรุงถนนภายในด้านหน้าอาคารผู้โดยสารมี 4 ช่องจราจร และยกระดับ 4 ช่องทาง

ขณะที่ทางยกระดับจากด้านหน้าสนามบินเชื่อมกับทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์นั้น เบื้องต้นได้มีการหารือกับกรมทางหลวง และบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) แล้วว่าจะมีการดำเนินการร่วมกัน โดย ทอท.รับผิดชอบก่อสร้างในพื้นที่ ทอท.ไปจนถึงเขตรั้ว และเอกชนรับผิดชอบส่วนที่ต่อเชื่อมกับดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยไม่มีการเก็บค่าผ่านทางเพิ่ม

นายกีรติกล่าวเพิ่มเติมถึงระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาทด้วยว่า แผนเดิมจะรวมอยู่ในการพัฒนาพื้นที่ด้านใต้ของสนามบินดอนเมือง ซึ่งจะมีการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน เพื่อเชื่อมพื้นที่อาคารคลังสินค้า 4 ที่จะพัฒนาเชิงพาณิชย์เชื่อมกับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (อาคาร 2) และอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (อาคาร 3)

“ตอนนี้เราปรับคลังสินค้าเป็น Private Jet จึงตัดระบบ APM ออก เพราะไม่จำเป็นแล้ว และใช้เป็นทางเดินเชื่อมต่อพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1, 2, 3” นายกีรติกล่าว และว่าส่วนแผนพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 จะมีการพัฒนาส่วนของอาคารคลังสินค้า 1 และ 2 ที่มีสภาพทรุดโทรมจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยจะปรับปรุงเพื่อขยายปริมาณรองรับสินค้าจากใต้ท้องเครื่องบินระหว่างประเทศให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าจะรองรับปริมาณสินค้าได้ถึง 500,000 ตันต่อป”

นายกีรติกล่าวด้วยว่า สำหรับเงินลงทุนดอนเมืองเฟส 3 มูลค่าประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 5,000-8,000 ล้านบาทนั้น ทอท.มีกระแสเงินสดและรายได้เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องกู้เงินมาลงทุนแต่อย่างใด รวมถึงโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิมูลค่า 9,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะประมูลในเดือนสิงหาคม 2567 และโครงการขยายสนามบินเชียงใหม่ระยะที่ 2 และขยายสนามบินภูเก็ตระยะที่ 2

นอกจากนี้ ทอท.อยู่ระหว่างเตรียมเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดิน สนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2562 โดยจะพิจารณาร่างทีโออาร์ในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทั้งผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ทอท.ยังได้วางเป้าหมายของท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีบทบาททางยุทธศาสตร์ เป็นท่าอากาศยานที่รวดเร็วและสะดวกสบาย หรือ “Fast and Hassle-free Airport” ให้สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้รวดเร็ว และการเข้าถึงจากจุดเช็กอินสู่เครื่องบินได้เร็วขึ้น และเป็นการเดินทางแบบ Point to Point มีผู้โดยสารหลักเป็นกลุ่มเอเชียและอาเซียน เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ ขณะที่สายการบินที่ให้บริการจะมีทั้งโลว์คอสต์แอร์ไลน์ และสายการบินแบบฟลูเซอร์วิส

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทอท.ลงทุนอาคาร “ไพรเวตเจ็ต” หนุนรายได้ “ท่าฯดอนเมือง” ปีละ 3 พันล้าน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-06-06T15:21:17Z dg43tfdfdgfd